Project Description

SUCCESSMORE ปักธงรบฮานอย ขึ้นแท่นอันดับ 1 ตลาด AEC

สานต่อพันธกิจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คน
ล่าสุด เปิดสาขาฮานอย ประเทศเวียดนาม เป็นสาขาลำดับที่ 27
โดยมีหุ้นส่วนชาวเวียดนามกว่า 200 คน ร่วมในพิธีเปิด
พร้อมเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นผ่านยุทธศาสตร์รุกตลาด 5 นโยบายหลัก
ลั่นความสำเร็จปี 2559 ทะลุเป้า 2,000 ล้านบาท

เป้าหมายการปักธงรบขยายสาขาให้ครอบคลุม
ทั้งในประเทศและตลาดต่างประเทศ
ถือเป็นพันธกิจหลักสำคัญที่บริษัทขายตรงน้องใหม่มาแรง
ยังคงเดินหน้าประกาศก้องถึงความมั่นคงยั่งยืน
ในการเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนหลักล้านคนใน AEC ให้เป็นจริง
และล่าสุดกับภาพความสำเร็จแบรนด์แกร่ง

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
บิ๊กบอสใหญ่ นพ.สิทธวีร์ เกียรติชวนันท์
ประธานกรรมการ
ผู้ซึ่งมีวิสัยทัศน์กว้างไกล
ได้ทุ่มงบมหาศาลเปิดสาขาฮานอย ประเทศเวียดนาม
บนเนื้อที่อาคารสูง 7 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 780 ตรม.
ซึ่งเป็นสาขาลำดับที่ 27 ของบริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด
เนรมิตเป็นโมเดลสุดหรู Pick & Pay
เพื่อให้ความสะดวกในการบริการเลือกหยิบซื้อสินค้า
เพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน
รองรับด้วยห้องประชุมขนาดใหญ่
ที่จุคนได้ 160 คน 2 ห้อง และห้อง VIP อีก 2 ห้อง
เพื่อสนับสนุนนักธุรกิจ
ให้ประสบความสำเร็จเร็วและมั่นคงมากยิ่งขึ้น
เป็นการตอกย้ำเจตนารมณ์
และจิตวิญญานในการส่งมอบคุณค่าที่แน่วแน่

อย่างไรก็ตาม ภายในงานสำคัญครั้งนี้
ได้มีหุ้นส่วนชาวเวียดนามกว่า 200 ท่าน
ที่เดินทางมาร่วมในพิธีเปิด
และร่วมส่งต่อความเชื่อมั่น
เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้คนด้วยความตื่นเต้น
และทั้งหมดคือพันธกิจที่จะร่วมส่งต่อ
ให้กับผู้คนเพื่อความสำเร็จร่วมกัน
พร้อมทั้งเตรียมเล็งการณ์ไกล
ขยายโอกาสธุรกิจด้วยการรุกเปิดสาขาใหม่
อีกหลายเมืองใหญ่ในเวียดนาม

นอกจากนี้เพื่อผลักดันให้ก้าวถึงเป้าหมายความสำเร็จปี 2559
ที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ที่กว่า 2,000 ล้านบาท
ได้กำหนดยุทธศาสตร์รุกตลาดผ่าน 5 นโยบายหลัก คือ
1.มุ่งเน้นการยกระดับมาตรฐานคุณภาพการให้บริการ
2.มุ่งเน้นยกระดับมาตรฐานการจัดงานฟังก์ชั่น
3.มุ่งเน้นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรแห่งการแบ่งปัน การใส่ใจ และการส่งต่อพลัง
4.มุ่งเน้นการบริหารความคาดหวัง และประสบการณ์จริงอย่างลงตัว
5.มุ่งเน้นการขยายตลาดสู่ AEC
และรวมถึง 16 แผนปฏิบัติเพื่อนำสู่เป้าหมายใหญ่ของยอดขายที่ตั้งไว้
และเมื่อวันนั้นมาถึงก็จะมาพร้อมกับ
ผลลัพธ์ที่จะช่วยยกระดับชีวิตนักธุรกิจ 500,000 คน

อนึ่ง “ประเทศเวียดนาม” (Vietnam)
ถือเป็นประเทศยักษ์ใหญ่อันดับ 3 ในกลุ่มอาเซียน
มีจำนวนประชากรราว 80 ล้านคน
และเป็นประเทศเศรษฐกิจคู่แข่งที่สำคัญของไทยที่น่าจับตามอง
เพราะเป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ในเมืองหลวงกรุงฮานอย และเมืองที่สำคัญอย่าง “นครโฮจิมินท์”

จุดเด่นของประเทศเวียดนาม
ประการแรกเป็นเมืองเศรษฐกิจน่าลงทุน
เพราะเป็นแบบสังคมเครือญาติ
จึงเกิดการค้าขายอย่างเป็นกันเอง
ประการต่อมาด้วยพฤติกรรมคนเวียดนามส่วนใหญ่
เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีทัศนคติในการทำงาน
แบบทุ่มเทต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง
อีกทั้งพฤติกรรมคนเวียดนามชอบค้าขาย
จึงมองเป็นโอกาสที่จะเข้าไปต่อยอดธุรกิจกลุ่มคนเหล่านี้อย่างไม่ยากนัก

สำหรับอัตราการเติบโตของธุรกิจขายตรงในเวียดนามถือว่าดีระดับหนึ่ง
แต่เป็นการเติบโตที่ไม่ค่อยวือหวานัก
เนื่องจากกฎหมายขายตรงค่อนข้างเข้มงวด
ดังนั้น ธุรกิจขายตรงที่เข้าไปเปิดในเวียดนาม
จะต้องพรั่งพร้อมด้วยศักยภาพทางการตลาดที่สมบูรณ์แบบจริงๆ

อ้างอิง: หนังสือพิมพ์ เดอะ พาวเวอร์ เน็ตเวิร์ก
วันที่ 16-31 พฤศจิกายน 2559